Chromatic Fields

About Project:

This series examines visual perception through binary color on a grid system. Each composition changes in size and spacing based on a set of rules, creating a sense of rhythm, movement, and depth. High contrast and gradual changes in pattern work together to form the Chromatic Fields visual experience.

In addition, this project uses a custom set of rules that allow each grid cell to shift and distort in real time based on user-defined settings. By combining basic mathematical functions, angle-based changes, and flexible polar or Cartesian layouts, it offers a way to explore different visual patterns. These methods make it possible to create a wide range of results—from soft waves to detailed spirals—making the system open to visual exploration.

แรงบันดาลใจของงาน Chromatic Fields  ชุดนี้ ต่อเนื่องมาจากที่ทำงานมีนโยบายสุขภาพ ที่ไม่อนุญาตให้พนักงานกินขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์เพื่อแก้เครียด ผมเลยลองหาอะไรทำเวลาคิดอะไรไม่ออก งานชุดนี้เป็นส่วนผสมของความสนใจใน Optical Art และ Algorithmic Art ที่ผมทดลองทำก่อนนอน หรือเวลาคิดงานอื่นไม่ออก ก็ย้ายมาทำงานนี้ ทดลองไปทีละนิดเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ

การผลัดวันประกันพรุ่งด้วยการย้ายจากงานหนึ่งไปทำอีกงานหนึ่ง อาจดูไม่เอาไหน แต่ก็เป็นกระบวนการทำงานที่อาจารย์ที่บริษัทที่ผมเคยทำงานด้วยสอนมา ว่าถ้าคิดงานหนึ่งไม่ออก ให้ลองย้ายไปทำอีกงาน ถ้าอีกงานก็คิดไม่ออก ก็ย้ายไปอีกงาน หรือไปอ่านอะไรก็ได้ เดี๋ยวจะคิดอะไรขึ้นมาได้ รวมถึงคิดอีกสองงานก่อนหน้าออกเอง หรือถ้าคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี อย่างน้อยก็ค่อย ๆ ทำอะไรเพื่อไปข้างหน้าทีละนิดก็ยังดี 

ต่างจากการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (multitasking) ซึ่งผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ผมทำงานด้วยวิธีสลับไปมาทีละเรื่องเหมือนโยนลูกบอลหลายลูก (juggling) เพื่อจะได้โฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่ละเรื่อง ทำแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว โดยส่วนตัวก็คิดว่าก็โอเค มันก็ช่วยให้เราได้อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในขณะที่ก็ช่วยให้คิดอะไรที่เวลาตั้งใจคิดแล้วนึกไม่ถึง แต่พอไปคิดเรื่องอื่นแล้วกลับไปแก้ปริศนาเรื่องที่ก่อนหน้าคิดไม่ออกได้พอสมควร (ส่วนจะทำได้ดีหรือเปล่า ก็คงเป็นอีกเรื่องครับ)

กลับไปที่งานศิลปะกับคณิตศาสตร์ ผมยังรู้สึกมาตลอดว่าพื้นฐานการออกแบบในวัยเด็กที่เรียนมานั้น ทั้งไม่ดี และไม่มี (ผมไม่ตั้งใจเรียน) เหมือนตัวเองไม่ได้เรียนอะไรเลย เอาตัวรอดไปวันวันในรั้วโรงเรียนและมหาวิทยาลัยแค่นั้นเอง พออายุมากแล้วก็เลยพยายามกลับไปหาเรียนพื้นฐานเท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย มีเวลาว่างเมี่อไหร่ก็กลับไปหาเรียนอะไร ศึกษาทดลองอะไรไปเรื่อย บนพื้นฐานของสิ่งที่ช่วยให้เราทำงานอื่นได้ดีขึ้นด้วย

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา พอดีงานยุ่งมาก และเป็นลักษณะของงานที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ผมสามารถเชื่อมโยง theme การทำงานของปีนี้ได้ จึงพยายามหาอะไรสักอย่างที่เป็นจุดเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน หรือใช้เวลา ทรัพยากร การเรียนรู้ แบบกระจัดกระจายเกินไป คงเหมือนการกำลังกาย ก็ดีกับการเล่นกีฬาที่หลากหลายชนิดได้ การออกกำลังความคิดก็น่าจะดีกับการทำงานเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน 

ขอบคุณครับ

Share:
X 
Facebook
LinkedIn